ไวรัสตับอักเสบเอ คือเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่ทำให้ตับอักเสบเฉียบพลัน โดยเชื้อมักปนเปื้อนมากับอุจจาระของผู้ที่มีเชื้อ โดยทั่วไป ผู้ใหญ่มักมีอาการรุนแรงกว่าเด็กแต่สามารถหายเองได้ และอาจมีหรือไม่มีอาการก็ได้ อาการที่พบ ได้แก่ มีไข้ ปวดเมื่อยตามตัว เบื่ออาหาร ท้องร่วง คลื่นไส้ ปวดท้อง ตัวเหลืองตาเหลือง
การรับเชื้อ
- การบริโภคอาหารและน้ำที่ไม่สะอาด มีเชื้อปนเปื้อน
- การมีเพศสัมพันธ์ในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย โดยเฉพาะการใช้ปากกับทวารหนัก
- การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน
การรักษา
รักษาตามอาการ ไม่มียาเฉพาะ
การป้องกัน
- รับประทานอาหารที่สะอาด ปรุงสุก
- ล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำสบู่เป็นประจำ
- ใช้ถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์
- ฉีดวัคซีนป้องกัน โดยเฉพาะในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย และผู้ใช้สารเสพติดชนิดฉีด
การตรวจคัดกรอง
ไม่จำเป็นต้องตรวจคัดกรอง แต่หากต้องการฉีดวัคซีนควรตรวจภูมิต้านทานก่อนฉีดวัคซีน
การฉีดวัคซีนป้องกัน
- ควรตรวจภูมิต้านทานก่อนฉีดวัคซีนโดยสามารถเลือกตรวจแบบใดก็ได้ ดังนี้
- Anti-HAV IgG คือการตรวจภูมิต้านทานระยะยาว ผลจะเป็น positive ในกรณีที่เคยติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเอแล้วหายแล้ว และกรณีที่เคยฉีดวััคซีนมาแล้ว หมายความว่ามีภูมิต้านทานแล้ว จึงไม่ต้้องฉีดวัคซีนในคนที่ anti-HAV IgG positive
- Anti-HAV IgM คือการตรวจสารก่อภูมิต้านทาน สำหรับแพทย์ใช้ตรวจในคนที่มีอาการต้องสงสัยในโรคนี้ ผลจะเป็น positive ในกรณีีที่มีีการติิดเชื้อระยะเฉีียบพลัันอยู่่ในร่่างกาย เมื่่อหายแล้้ว ร่่างกายจะสร้้าง anti-HAV IgG ขึ้นมาเอง
- Anti-HAV total คือการตรวจรวมภูมิต้านทานทั้งชนิด IgG และ IgM หากผลเป็น positive จะบอกไม่่ได้้ว่่ามีีภููมิิต้้านทานชนิิดใด แต่่ก็็แปลผลว่่ามีีภููมิิต้้านทานแล้้วจึงไม่่จำเป็นต้้องฉีีดวััคซีีน
- ฉีดวัคซีนฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 6 เดือน โดยไม่ต้องตรวจเลือดซ้ำหลังฉีดวัคซีน
- หากไม่มาตามนัด สามารถฉีดต่อได้เลย ไม่มีกำหนดเวลา ไม่ต้องเริ่มใหม่
- หากเป็นผู้อยู่ร่วมกับเชื้อ HIV ก็ฉีดได้
หากเป็นหวัดไม่สบายเล็กน้อย ฉีดได้เข็มที่ 2 เป็นคนละยี่ห้อกับเข็มแรกก็ได้