“ฝีดาษลิง” เพิ่งถูกประกาศให้เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขจาก WHO จึงทำให้หลายคนเริ่มกังวลและตื่นตัว
แต่ในขณะเดียวกันยังมีข้อมูลอีกด้านที่พยายามใช้โรคระบาดในครั้งนี้ มาเป็นเครื่องมือในการตีตราทางเพศต่อกลุ่มชายรักชายและกลุ่ม LGBTQ+
เราขอเป็นอีกหนึ่งเสียงที่จะมายืนยันว่า “โรคระบาดไม่เคยเลือกเพศ” และโรคฝีดาษลิงเป็นโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศ เพื่อเป็นการป้องกันการนำโรคระบาดมาตีตราทางเพศเหมือนที่เคยเกิดกับโรคเอดส์และเชื้อ HIV ในอดีต เรามาทำความรู้จักและทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคฝีดาษลิง แบบสรุปสั้นๆ เข้าใจง่ายๆ กัน
“อาการของฝีดาษลิง”
ส่วนใหญ่ผู้ที่รับเชื้อผ่านการสัมผัสของเหลวจากตุ่มน้ำ โดยทั่วไปแล้วอาการจะไม่รุนแรง โดยจะเป็นตุ่มน้ำ ตุ่มหนองบริเวณอวัยวะเพศ ขาหนีบ กระจายมาที่แขน ขา หรือลำตัว ซึ่งไม่รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต ส่วนอาการไข้ ปวดหัว ต่อมน้ำเหลืองโต จะเป็นอาการที่พบเพียงบางส่วนเท่านั้น
“การติดต่อของโรคฝีดาษลิง”
การติดต่อที่ง่ายที่สุดคือการสัมผัสของเหลวจากตุ่มน้ำ สารคัดหลั่งจากทางเดินหายใจ ส่วนการติดต่อผ่านเพศสัมพันธ์นั้นยังไม่มีข้อมูลที่สามารถสรุปได้อย่างแน่ชัด ซึ่งหากเทียบกันแล้ว การติดต่อของฝีดาษลิงจะมีความคล้ายกับโรคอีสุกอีใสที่เราคุ้นเคยกันในตอนเด็กๆนั่นเองค่ะ
“การป้องกันโรคฝีดาษลิง”
แม้ว่าในปัจจุบันจะยังไม่มีแนวทางการรักษา หรือวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษลิงที่แน่ชัด แต่การป้องกันที่ดีที่สุดคือ การล้างมือบ่อยๆ พยายามรักษาความสะอาด มีเพศสัมพันธ์อย่างระมัดระวังและจำกัดจำนวนคู่นอน รวมทั้งการเรียนรู้อาการและการติดต่อของโรคฝีดาษลิงอยู่เสมอ ช่วยให้เราสามารถรับมือกับโรคนี้ได้ค่ะ